วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การทำข้าวคลุกพริกเกลือ

ส่วนผสมและอัตราส่วน

ส่วนผสมน้ำพริกเกลือ
1. พริกขี้หนู 10 เม็ด
2. กระเทียมไทย 5 กลีบ
3. มะนาว 2 ลูก
4. น้ำปลาแท้ 2 ช้อนโต๊ะ
5. ชูรส นิดหน่อย
6. น้ำตาลตัดเล็กน้อย

วิธีทำ
ตำพริกขี้หนูกับกระเทียบให้ละเอียด บีบมะนาวใส่ตามด้วยน้ำปลาน้ำตาลชูรส ชมรสตามต้องการเป็นอันเสร็จ

ส่วนผสมข้าวคลุกพริกเกลือ
- กุ้งสด 9 ตัว  .......... ใช้ขนาด 40 ตัว 1 กิโล 
- หมึกสดขนาดกลาง 3 ตัว  .......... ใช้ขนาด 10 ตัวโล / เป็นหมึกไข่
- เนื้อหมู (ส่วนที่ชอบ) 100 กรัม
- ไข่เป็ด 3 ใบ
- น้ำจิ้ม
- แตงกวา 3 ลูก
- ผักชี 3 ต้น
- ข้าวหอมมะลิหุงสวย ๆ กำลังร้อน 3 จาน
- กระเทียมเจียว และน้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย  ............. (ปกติเค้าไม่ใส่กัน แต่ว่าใส่แล้วก็อร่อยไปอีกแบบ)
วิธีทำ
อันดับแรกเราก็มาจัดการกับเนื้อสัตว์กันก่อนนะคะ
กุ้ง .... เลือกใช้ขนาด 40 ตัวหนัก 1 กิโลค่ะ  ก็หลังจากได้กุ้งมาแล้ว ให้แกะเปลือกกุ้งออก  ไม่ต้องผ่าหลังนะคะ  แต่ให้ดึงเส้นดำด้านหลังกุ้งกับด้านใต้ท้องกุ้งออก  แล้วดึงส่วนหัวทิ้งไป (ทั้งหมด)  ส่วนหางจะไว้หรือไม่ไว้ก็ตามชอบค่ะ
หมึก ..... เลือกซื้อหมึกขนาด 10 ตัวโลมาค่ะ (และเป็นหมึกไข่ แต่ไม่จำเป็น)   หลังจากได้หมึกมาแล้วก็ทำให้ดึงเส้นขาวๆ  ใสๆ ในตัวหมึกออก  ตัดส่วนลูกกะตาหมึกและลูกกลม ๆ ขาวๆ  ในหัวหมึกออก  ล้างให้สะอาด พักไว้ค่ะ
เนื้อหมู ..... เลือกส่วนที่ชอบค่ะ  แต่โดยปกติเค้าจะนิยมหมูส่วนสะโพกหรือส่วนสันนอกกัน แต่ไม่ค่อยชอบเนื้อหมูแบบนั้นค่ะรู้สึกมันแห้ง ๆ เลยขอให้เป็นสันคอหรือสามชั้นแทน  ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนจะใช้หมูสามชั้นแบบพิม ก็ให้ตัดส่วนหนังของสามชั้นทิ้งไป  และถ้ามีมันมาก ก็ตัดส่วนมันทิ้งไปบ้างก็ได้ค่ะ
และในส่วนนี้หากเรามีเนื้อปลา เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า หรือเนื้อปู จะเพิ่มมาด้วยก็ได้ .. ไม่เสียหายค่ะ
เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์เสร็จ ก็ให้เราเอาน้ำสะอาดใส่หม้อย่อม ๆ แล้วนำหม้อขึ้นตั้งเตาไฟ เปิดไฟกลาง ๆ  รอจนน้ำเดือดจัดก็เหยาะเกลือลงไปสัก 1/2 ชช. นะคะ
แล้วก็จัดการเอาหมึก-กุ้งลงไปลวกให้สุก  ส่วนหมู-ไข่เป็ด ก็นำไปต้มจนสุกดีค่ะ ... เกือบลืมนิดนึงค่ะ สำหรับคนชอบไข่เป็ดแบบยางมะตูม ให้ต้มแบบนี้นะคะ คือเอาน้ำใส่หม้อ นำหม้อตั้งไฟ รอน้ำเดือดก็ค่อยหย่อนไข่ลงไป  จับเวลา 6 นาที ไข่เป็ดจะเป็นยางมะตูมพอดีค่ะ  แต่ถ้าจะให้เป็นแบบในรูปด้านบน ต้ม 7 นาทีนะคะ  พอครบ 6 หรือ 7 นาทีก็ตักไข่ขึ้นแช่น้ำเย็นจัดทันที เป็นอันว่าเราจะได้ไข่ยางมะตูมเรียบร้อยค่ะ
และเมื่อเราเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาจัดจานกันแล้วล่ะค่ะ
เริ่มด้วยการคดข้าวสวยร้อน ๆ  ประมาณ 1 ถ้วยตวง (พิมกะๆ  เอานะคะ ไม่ได้ตวงจริงๆ)  ใส่กาละมังใบย่อมๆ สักใบ ราดพริกเกลือ (น้ำจิ้ม) ลงไปประมาณ 1 ชต.  คลุกเคล้าให้เข้ากันดีค่ะ   (ใครชอบกลิ่นน้ำมันกระเทียมเจียว จะใส่ไปสัก 1 ชช. ก็ได้ค่ะ แต่อย่าใส่เยอะ จะเลี่ยน)
พอคลุกข้าวเข้ากันดีแล้ว ก็ตักใส่จานที่เราจะใช้เสริฟนะคะ  แล้วโปะหน้าด้วยกุ้ง 3 ตัว หมึก 1 ตัว (หั่น 3 ชิ้น) หมูสามชั้น 3 ชิ้น (หมูต้มแล้ว 1 ขีดหั่นให้ได้ 9 ชิ้น)  ไข่ต้มยางมะตูม 1 ฟอง  โรยด้วยกระเทียมเจียวตามชอบ (ปกติเค้าไม่ใส่กัน แต่พิมชอบและอยากใส่ค่ะ)  วางผักแกล้มเช่นแตงกวา ผักชีไว้ข้างๆ จาน และอย่าลืมตักน้ำจิ้มพริกเกลือใส่ถ้วยเล็ก ๆ สำหรับเสริฟพร้อมกันอีก 1 ถ้วยค่ะ
แล้วเราก็จะได้ "ข้าวคลุกพริกเกลือ"  ออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ

การทำปาท่องโก๋

ส่วนผสมและอัตราส่วน
ตัวปลาท่องโก๋
         • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
         • เกลือป่น 1 ช้อนชา
         • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
         • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
         • ผงฟู 1 ช้อนชา
         • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
         • น้ำ (อุณหภูมิห้อง) 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
         • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
         • น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 
         • แป้งสาลีอเนกประสงค์ (สำหรับโรยกันติด)

วิธีทำปาท่องโก๋

         • 1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกันลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์แห้งลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
         • 2. ผสมน้ำอุ่น น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
         • 3. เทส่วนผสมของเหลว (ข้อ 2) ลงในส่วนผสมแป้ง (ข้อ 1) นวดด้วยมือหรือเครื่องนวดแป้งให้เข้ากันประมาณ 10 นาที จากนั้นนำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ คลุมแป้งพักไว้ประมาณ 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
         • 4. โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงบนพื้นผิวที่จะนวดแป้งแล้วนำแป้งมารีดเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้มีดตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดเท่า ๆ กัน
         • 5. ใช้ไม้แตะน้ำเปล่าแล้วแตะลงตรงกลางแป้ง จากนั้นนำแป้งอีกชิ้นมาประกบซ้อนกันเบา ๆ พักไว้สักครู่
         • 6. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ยืดแป้งตามยาวเล็กน้อยแล้วนำลงทอดจนสุกเหลืองกรอบและลอยขึ้นมา ช้อนตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน

ส่วนผสมน้ำจิ้มปลาท่องโก๋
1.น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
3.พริกแดงสด เล็กน้อย
4.กระเทียมสับเล็กน้อน

วิธีทำ 
นำทุกอย่างมาผสมกัน แร่วปรุงรส ออกเปรี้ยวหวาน

การทำก๋วยเตี๋ยวผัดปู

ส่วนผสมและอัตรส่วน

เส้นก๋วยเตี๋ยวจันท์ 500 กรัม
ปูทะเล 2 กิโลกรัม
ถั่วงอก 1/2 กิโลกรัม
กุยช่าย 300 กรัม
กะหล่ำปลี 1 หัวเล็ก
แตงกวา 1/2 กิโลกรัม
เครื่องปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยว
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 9 เม็ด
หอมแดง 120 กรัม
กะปิดี 20 กรัม
หัวกะทิ 1 1/3 ถ้วยตวง
น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา 3/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. แช่เส้นก๋วยเตี๋ยวในน้ำให้นิ่ม (ประมาณ 10 นาที) แล้วนำขึ้นผึ่งไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2. ล้างปูทะเล แกะกระดองและนมปูออก ตัดปลายเล็บออก สับเป็นชิ้น ประมาณตัวละ 4-6 ชิ้น
3. โขลกพริกแห้ง หอมแดง กะปิ เข้าด้วยกันให้ละเอียด
4. เคี่ยวกะทิพอเดือด (ไม่ต้องแตกมัน) เอาน้ำพริกลงผัดให้หอม ปรุงรสด้วยซ้อสมะเขือ เทศ น้ำมะ ขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา พอส่วนผสมเดือดจึงใส่ปูลงผัดให้เข้ากัน ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ผัดต่อไปด้วยไฟอ่อน จนเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มและแห้งจึง ใส่ถั่วงอกและใบกุยช่าย ที่ตัดไว้เป็นท่อนๆยาวประมาณ 1 นิ้ว เคล้าให้เข้ากัน แล้วยกลง
5. รับประทานกับต้นกุยช่าย กะหล่ำปลีหั่นฝอย แตงกวาสับเป็นเส้น เติมรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว

ลักษณะ

1. เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่ม ไม่เกาะกันเป็นก้อน เส้นไม่เปื่อยขาด ไม่มีน้ำแฉะ สีส้มแดงรสเค็ม หวานเปรี้ยว มัน เผ็ดเล็กน้อย
2. รับประทานได้ 5-6 คน
3. ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตะมินเอ วิตะมินซี และกากใบอาหาร
4. ใช้น้ำมันแทนหัวกะทิได้ ใช้กุ้งแทนปูได้ เรียกว่าก๋วยเตี๋ยวผัดกุ้ง
ก๋วยเตี๋ยวผัดปูเป็นอาหารจานเดียว นิยมรับประทานเป็นอาหารมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองจันทบุรี ความอร่อยอยู่ที่ความนุ่มเหนียวของเส้นก๋วยเตี๋ยวและน้ำปรุงรสที่ใช้ผัด

การทำก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดปู

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ชนิดแห้ง (200 กรัม) 1/2 ห่อ 
  • ปูม้า น้ำหนัก 300 กรัม 1 ตัว 
  • เนื้อก้ามปูทะเลแกะ 1/2 ถ้วย 
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ใบกุยช่ายหั่นท่อนสั้น 1/4 ถ้วย 
  • ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย 
  • มะนาวหั่นเสี้ยว 1 ผล 
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด 1/4 ถ้วย
     

ส่วนผสมน้ำพริกแกง

  • พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำ 2 เม็ด 
  • หอมแดงซอย 3 หัว 
  • กระเทียมซอย 3 กลีบใหญ่ 
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
     

วิธีทำ

  1. เตรียมน้ำพริกแกงโดยโขลกพริกแห้งกับเกลือให้ละเอียด ใส่กระเทียมและหอมแดงลงโขลกต่อให้เข้ากันจนละเอียด
  2. แช่เส้นจันท์ในน้ำประมาณ 5 นาที สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
  3. ล้างปูให้สะอาด แกะกระดองปูและดึงนมออกให้หมด สับเป็น 4 ชิ้น พักไว้
  4. ตั้งกระทะน้ำมันโดยใช้ไฟกลางให้ร้อน ใส่น้ำพริกที่โขลกลงผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะขามเปียก ผัดให้เข้ากัน รอให้เดือด ตักแบ่งไว้ประมาณ 1/3 ส่วน ที่เหลือใส่ปูลงผัดให้สุก แล้วใส่เส้นจันท์ลงผัดให้เข้ากัน ชิมรส ถ้ารสอ่อนปรุงรสเพิ่ม ใส่ถั่วงอก ใบกุยช่าย ผัดให้ทั่ว ตักใส่จาน
  5. ใส่น้ำพริกที่แบ่งไว้ลงในกระทะอีกใบ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เนื้อปูแกะลงผัดเบาๆ แล้วตักราดบนเส้นที่ผัดไว้ เสิร์ฟกับกุยช่าย ถั่วงอก และมะนาวหั่นเสี้ยว

Note

  • ถ้าชอบเผ็ดให้โรยพริกแห้งป่นเพิ่ม

การทำทองม้วนสด

ส่วนผสมและอัตรส่วน

• แป้งมัน 1 ถ้วย
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/4 ถ้วย
• กะทิสด 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วย (ใครชอบหวานเพิ่มได้นะ สูตรนี้แบบหวานน้อย)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• งาดำคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• เนื้อมะพร้าว 1/2 ลูก
• สีผสมอาหารสีเหลืองไข่ไก่ และสีส้ม
• ดอกอัญชัญต้มกับน้ำ (สำหรับทำสีคราม)

วิธีทำ

• 1. ผสมแป้งมันกับแป้งสาลีอเนกประสงค์เข้าด้วยกันในชามผสม เตรียมไว้
• 2. ผสมกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลมะพร้าว ใช้ตระกร้อมือตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทใส่ลงในชามแป้งทีละน้อย คนผสมให้เข้ากันอีกครั้งให้ข้นเป็นเนื้อเดียว (แต่ไม่ต้องข้นมาก) สุดท้ายใส่งาดำคั่วลงไป พักไว้ประมาณ 30 นาที
• 3. แบ่งส่วนผสมแป้งเป็น 3 ถ้วย หยดสีผสมอาหารลงไปทีละนิด คนผสมให้เข้ากันจนได้สีที่ชอบ สุดท้ายแบ่งใส่เนื้อมะพร้าวลงไปเท่า ๆ กัน เตรียมไว้
• 4. นำกะทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟอ่อน (ใช้ไฟวงเล็กตรงกลาง) พอให้กระทะร้อนนิด ๆ แล้วตักส่วนผสมแป้งหยอดลงไป

• เคล็ดลับ : หากต้องการให้เนื้อขนมมีความฉ่ำสวย ให้ทาน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกที่กระทะนิดหน่อยนะคะ ขนมจะเงาสวยค่ะ อย่างที่บอกเราทดลองแล้วเห็นว่าไม่ติดกระทะ จึงไม่ได้ทาน้ำมัน เนื้อจึงแลแห้งไปนิดหนึ่งจ้า

• 5. พอเกลี่ยเป็นวงกลมแล้วให้เร่งไฟแรงขึ้นเล็กน้อยรอให้เนื้อแป้งสุก **สังเกตจะเป็นสีขาวขุ่น (แต่มันแป๊บเดียวนะ) ** จากนั้นใช้ตะเกียบพลิกกลับด้าน
• 6. พอแป้งสุกนำขึ้นนำไปวางที่เขียง เวลาม้วนให้ใช้ตะเกียบ 2 อัน คีบแผ่นแป้งขึ้นมา แล้วค่อย ๆ ม้วนแบบหลวม ๆ (ม้วนหลวม ๆ ล่ะ เดี๋ยวเอาตะเกียบไม่ออกนะ ชิ้นแรกอ้อก็เจอเลยเพราะครั้งแรกตื่นเต้น ม้วนแน่นไปหน่อย จึงเตือนกันเอาไว้ก่อน) ดึงตะเกียบออกจากแป้ง ทำจนครบทั้ง 3 สี จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน

การทำข้าวเกรียบอ่อน

ส่วนผสมและอัตรส่วน

1.ข้าวเกรียบอ่อน(เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แบบไม่ตัด) 1 กก.
2.กุ้งแห้งอย่างดี 1 ถ้วย
3.น้ำตาลทราย 2 ชต
4.เกลือป่น 1 ชช 5.มะนาว 2 ลูก
6.กระเทียม 5 กลีบ
7.พริกขี้หนูสวน
8.น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1.กุ้งแห้งล้างสะอาดป่นใส่ถ้วยพักไว้
2.นึ่งข้าวเกรียบอ่อนประมาณ 3 นาทีให้ร้อน พักไว้
3.ทำน้ำจิ้มโดยตำกระเทียมและพริกขี้หนูพอแหลกในครก ใส่น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะนาว และน้ำต้มสุก ชิมรสให้จัดทั้ง 3 รส หวาน เปรี้ยว เผ็ด ตามชอบ 4.เทผสมในถ้วยกุ้งแห้งป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าแห้งไปเติมส่วนผสมเพิ่มให้น้ำขลุกขลิก 5.จัดเส้นข้าวเกรียบอ่อนใส่ในจาน ทานคู่กับน้ำจิ้ม โดยเวลาจะทาน ตักเส้นแบ่งใส่ถ้วยหรือจานและนำน้ำจิ้มราดลงไปค่ะ

Tips วิธีทำเส้นข้าวเกรียบอ่อนโบราณของจันทบุรี นั้น มีกรรมวิธีการผลิตโดยนำแป้งข้าวเจ้าไปโม่ให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำบาดาลให้มีความข้นพอเหมาะ จากนั้นก็ละเลงเป็นแผ่นใหญ่นึ่งด้วย ความร้อนจากไอน้ำ พอสุกดีก็แซะวางบนตะแกรงไม่ไผ่เป็นแผ่น ๆ

การทำก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง

ส่วนผสมน้ำก๋วยเตี๋ยว

1. เร่วหอม 3 แง่ง
2. หัวข่า 3 แง่ง
3. ตะไคร้ 2 ต้น
4. กระเทียมดอง 3 หัว
5. เต้าหู้ยี้ 1 ชิ้น
6. เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลา 1/3 ของขวด
8. น้ำตาลอ้อย 3 ขีด
9. เครื่องต้มพะโล้
10. กระดูกหมู ซี่โครงหมู 2 ชิ้น
11. น้ำ 1 หม้อ (เบอร์ 34)

วิธีการปรุง (น้ำก๋วยเตี๋ยว)

1. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่หัวข่า ตะไคร้ที่ทุบเรียบร้อยแล้วลงไปพร้อมส่วนผสมทั้งหมด รอน้ำเดือด
2. จากนั้นนำกระดูกหมูและซี่โครงหมูใส่ลงไป รอน้ำเดือดอีกรอบ
3. ใส่เครื่องต้มพะโล้ รอน้ำเดือด ชิมรส เป็นอันเสร็จ
เครื่องปรุงรสก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง
1. “น้ำอ้อย” ไม่ใช่น้ำตาลทรายแดง ไม่ใช่น้ำตาลอ้อย ไม่ใช่น้ำอ้อยสด “น้ำอ้อย” ทำที่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี เป็นน้ำตาลที่ไว้ปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงช่วยเพิ่มรสชาติดีนักเชียว
2. “น้ำส้มพริกตำ” อันนี้ก็ขาดไม่ได้เลย ทำจากพริกขี้หนูตำผสมน้ำส้มสายชู ให้รสเผ็ดปนเปรี้ยว

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การทำน้ำพริกปูไข่

ส่วนผสมและอัตรส่วน

- กระเทียมไทยกลีบเล็กแกะเปลือก 20 กลีบ
- พริกขี้หนูสวนสีเขียวแดงเด็ดก้าน 15  เม็ด
- ไข่ปูนึ่งสุก 4 - 5 ชต.
- น้ำตาลทราย 2 ชช.
- น้ำปลา 2 ชต.
- น้ำมะนาว 2 ชต.

- ผักเหนาะตามชอบ เช่น มะเขือ ถั่วพู  ขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ยอดมะม่วงหิมพานต์   ใบบัวบก  (นิยมทานเป็นผักสด)

วิธีทำ

- อันดับแรกเลยเราก็โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูรวมกันนะคะ แต่ไม่ต้องให้แหลกมาก  .. สำหรับปริมาณพริกเนี่ย เพื่อนๆ สามารถใส่มากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ ตามชอบเลย  ส่วนพิมใส่ไป 15 เม็ด ก็เผ็ดกลางๆ ถ้าจิ้มกับผักแล้วก็กำลังดีอ่ะค่ะ
- จากนั้นใส่ไข่ปูที่นึ่งสุกแล้วลงไปนะคะ   แล้วใช้สากบดให้ไข่ปูแหลกเข้ากับพริกกระเทียมค่ะ   
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล คนด้วยสากให้เข้ากัน แล้วก็ชิมรสตามชอบ  ขาดรสไหนก็เติมได้เลยนะคะ    ซึ่งที่พิมทำจะออกเปรี้ยวนำ ตามรสดั้งเดิม  มีเค็มพอประมาณ หวานพอไม่ให้เปรี้ยวโด่เกินไปค่ะ
- แล้วก็ตักใส่ถ้วย เสริฟพร้อมผักสด ๆ เช่น มะเขือ ถั่วพู  ขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ยอดมะม่วงหิมพานต์   ใบบัวบก ทานคู่กับปลาทอด กุ้งทอด หมึกลวก ปลานึ่ง และข้าวสวยร้อน ๆ .. อิ่มอร่อยเลยค่ะ
- แต่เดิมน้ำพริกไข่ปูสูตรที่คนทะเลเค้าทำกัน เค้าจะใส่แต่น้ำมะนาว น้ำปลา/เกลือ   ออกมาคล้ายน้ำจิ้มทะเล  แต่พิมมาเพิ่มน้ำตาล เพื่อให้รสกลมกล่อมขึ้นค่ะ  แต่หากเพื่อนๆ คนไหนจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ ตามความชอบเลย   
- ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ  เลยค่ะ 

การทำน้ำพริกระกำ

ส่วนผสมของน้ำพริกระกำ

ระกำเปรี้ยว (ระกำเปรี้ยวเปลือกมีสีส้มไม่ออกสีแดงคล้ำแบบระกำหวาน) 8 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก 15 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ล้างระกำ (มีเคล็ดลับนิดหน่อยในการปอกเปลือกคือ การแกะเปลือกระกำควรใช้มือหนึ่งจับด้านขั้วผล แล้วใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้บีบที่ปลายผลเมื่อยุบตามแรงบีบก็ค่อยๆ บิดเปลือกตรงก้นผล แล้วดึงเปลือกวนออกเป็นเกลียว เปลือกจะหลุดล่อนออกโดยไม่ฉีกขาดและหนามไม่แทงมือ)ลอกเยื่อสีขาวออก หั่นเป็นชิ้น (แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย) ใล่ถ้วย เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และกะปิ เข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่ระกำ โขลกเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาล(ถ้าระกำเปรี้ยวไม่เปรี้ยวมากให้ใส่น้ำมะนาว) คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานเล็กน้อย
3. ตักใส่ถ้วย โรยระกำที่แบ่งไว้ ก็จะได้น้ำพริกระกำรสจัดจ้าน ไว้รับประทานกับผักสด ผักต้ม และปลาทู

การทำหมูชะมวง

ส่วนผสมและอัตรส่วน

น้ำพริกแกงหมูชะมวง
1. พริกแห้ง 3 เม็ด
2. ข่าซอย 2 ช้อนชา
3. กระเทียม 3ช้อนโต๊ะ
4. หอมแดง 5ช้อนโต๊ะ
5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทย 1 ช้อนชา
7. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ

แกงหมูชะมวง
1.น้ำพริกแกงหมูชะมวง
2.หมูเนื้อแดง (หรือใช้ขาหมูก็อรอายค่ะ) ½ กิโลกรัม
3.ใบชะม่วง 1 - 2 ถ้วย
4.น้ำตาลปิ๊บ 2 ½ ช้อนโต๊ะ
5.น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ใบชะมวงล้างน้ำแล้วดึงเส้นกลางใบออก ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ
2.ข่า กระเทียม หอมแดง กะปินำไปเผาไฟให้หอม โขลกรวมกับเครื่องพริกแกงต่างๆ ให้ละเอียด
3.ใส่น้ำมันลงในกระทะ แล้วใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม ใส่เนื้อหมูตามลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลาใส่ใบชะมวง
4.เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้หมูเปื่อย


อาหารพื้นเมืองจันทบุรี

10 เมนูดัง เมืองจันทบุรี

ใครมาเที่ยวจันทุบรี ไม่กิน 10 เมนูนี้ ถือว่ามาไม่ถึง

อาหารพื้นบ้านจานเด็ดจันทบุรี เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยเครื่องเทศและ สมุนไพร อีกทั้งเป็นแหล่งผลิต และค้าขายของป่ารวมทั้งเนื้อสัตว์ป่าซึ่งเป็นอาหารอันโอชะด้วย อาหารพื้นบ้านจันทบุรีโดยเฉพาะแกงเผ็ด และผัดเผ็ด จึงใช้เครื่องเทศมาก เผ็ดร้อน และหอมเครื่องเทศมากเป็นพิเศษมากกว่าแกงเผ็ด และผัดเผ็ดที่อื่น ถ้าใครได้ลองชิมแกงป่าหรือ ผัดเผ็ดป่าที่นี่จะรู้ดีว่าเผ็ดกว่า ร้อนกว่า และหอมกว่า

1.แกงหมูชะมวง เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของจันทบุรี โดยเป็นแกงที่มี 3 รส คือ มีรสเค็มจากน้ำปลาดี เปรี้ยวจากใบชะมวง หวานจากน้ำตาลปึก สามรสชาติที่เข้มข้น หมูสามชั้นที่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก้อนโต ที่เคี่ยวจนได้ที่


วิธีทำ


2.น้ำพริกระกำ ตำเหมือนน้ำพริกกะปิ แต่ใส่ระกำเปรี้ยวแทนมะนาว ขณะตำใส่กุ้งแห้งชนิดดีผสมไปด้วย ลักษณะของน้ำพริกกะปิ หรือน้ำพริกระกำของชาวจันท์จะเป็นน้ำพริกข้น ๆ ผักที่ใช้จิ้ม เช่นถั่วพู ดอกแดง ขมิ้นขาว ผักชี หัวชะเนียง ลูกหย่อง สะตอเผา ผักชะอมชุบไข่ทอด



3.น้ำพริกปูไข่ ใช้ไข่ปูทะเลตำกับกระเทียม พริกขี้หนูสวนจนละเอียด เติมน้ำตาล น้ำปลา มะนาวให้รสชาติที่เข้มข้น กินกับ ผักสดชนิดต่าง ๆ เช่น แตงกวา ถั่วพู คูน มะเขือกรอบ ขมิ้นขาว ใบ เสม็ด ทั้งนี้จะแกะเนื้อปูใส่ เพื่อเพิ่มปริมาณและ ความหอมหวานก็ย่อมได

วิธีทำ





4.ก๋วยเตี๋ยวผัดปู มีผักสด คือ ถั่วงอกสด ใบกุยช่าย แตงกวาซอยหั่นตามขวาง และหัวปลีอ่อนเป็นเครื่องเคียง ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าอาหาร นอกจากจะรับประทานเป็นอาหารว่างหรือแทนอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งแล้ว ในงานทำบุญต่าง ๆ ยังนิยมผัดก๋วยเตี๋ยวผัดปูเพื่อ เลี้ยงแขกผู้มาร่วมงานด้วย

วิธีทำ





5.ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดปู ด้วยคุณสมบัติที่เหนียวนุ่ม ทำให้เส้นจันท์ มีชื่อเสียงแพร่หลาย จานเด็ดได้แก่ เส้นจันท์ผัดไทย,ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเลียงหรือก๋วยเตี๋ยวผัดปู ก็ล้วนแต่ปรุงจากเส้นจันท์ทั้งนั้น


วิธีทำ




6.ข้าวเกรียบอ่อนน้ำจิ้ม มีลักษณะคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อแต่ชิ้นใหญ่และ
หนากว่ามีน้ำจิ้มที่ปรุงด้วยกุ้งแห้งอย่างดี กระเทียม พริกขี้หนูสวน โขลกพอละเอียด ปรุงรส 
ด้วยน้ำตาลน้ำปลาดี มะนาวหรือมะปี๊ด

วิธีทำ


7.ทองม้วนสด ของชาวจันทบุรี มีทั้งทองม้วนกรอบแล้วยังมีทองม้วนอ่อน วิธีทำเหมือนทองม้วนกรอบ มีทั้งรสหวานและรสเค็มส่วนผสมที่เพิ่มคือ งาคั่ว เกลือ ผักชี เวลาย่างให้ย่างแค่พอสุกก็แซะขึ้น ทองม้วนที่ได้จะอ่อนนิ่ม


8.ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเลียงหรือหมูเลียง นิยมกินเป็นอาหารมื้อกลางวัน ใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผสมผสานกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น เร่วหอม บางตำรับจะใส่ สับปะรดต้มในน้ำด้วย และปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลอ้อย น้ำส้มและพริกขี้หนูสวนบดละเอียดดองในน้ำส้ม ช่วยให้รสเปรี้ยว หวาน เผ็ดจัดจ้าน ตามแบบฉบันของคนเมืองจันท์




9.ปาท่องโก๋ คนจันท์จะกินปาท่องโก๋ จิ้มน้ำจิ้ม รสหวานออกเปรี้ยว ซึ่งปรุงรสด้วยกระเทียมโขลกผสมน้ำส้ม พริก น้ำตาลเล็กน้อยเพิ่มรสชาติปาท่องโก๋ให้อร่อยขึ้นกว่าเดิม

วิธีทำ





10.ข้าวคลุกพริกเกลือ ใช้พริกขี้หนูสวนตำกับกระเทียมพอแหลกปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลาและมะนาวใช้เป็นน้ำจิ้มอาหารซีฟู๊ต เช่น กุ้งลวก กุ้งเผา ปูนึ่ง ปลาย่าง หอยลวก เนื้อหมูหรือไก่ก็ได้ หรือนำน้ำพริกเกลือ มาคลุกข้าว เมนูเด็ดของชาวจันท์


อาหารทะเล คนท้องถิ่นจันทบุรีรู้จักนำสัตว์และพืชจากทะเลอีกหลายชนิดมาปรุงได้อย่างอร่อย เช่น เพรียงตัวยาวที่เกาะอยู่ตามขอนไม้โกงกางผุ ๆ นั้น เพียงแกะเปลือกไม้ที่หุ้มอยู่ออก ล้างน้ำให้สะอาด จิ้มน้ำพริกเกลือ ก็จะได้อาหารบำรุงกำลังชั้นยอด สาหร่ายสีเขียวใส เส้นยาวขนาดหนาเท่าเส้นหนังสติ๊กลวกจิ้มน้ำพริกกระปิหรือยำกับมะม่วง ใส่กุ้งดิบตัวเล็กสด ๆ เป็นกับแกล้มได้อย่างวิเศษ อาหารยอดนิยมจากทะเลอีกอย่างคือ แมงกระพรุน ที่นำมาแช่กับน้ำฝาดจากต้นอินทรีย์ทำให้เนื้อกระพรุนมีรสฝาดและกรอบกินกับน้ำพริกถั่ว ( คล้ายน้ำจิ้มเต้าหู้ทอด ) เป็นของกินเล่นหรือกับข้าว